จากบทความที่แล้ว ผมได้แนะนำหลักการทำเนื้อเค้กแบบสปันจ์ไปแล้ว พร้อมแนะนำตัวอย่างสูตรขนมอร่อย เค้กเชอรี่บลอสซั่ม โยเกิร์ตครีม ได้ลองทำตามบ้างหรือเปล่า ไม่ยากใช่ไม๊ครับ ผมว่าง่ายสุดในบรรดาเนื้อเค้กทั้งหมด บทความวันนี้ผมจะแนะนำหลักการทำเค้กชนิดที่สอง คือเนื้อเค้กแบบชิฟฟ่อน
สนใจอุปกรณ์เบเกอรี่คลิ๊กเข้าไปเลือกชมได้ครับ เพื่อสนับสนุนBlog ของเราได้ครับ |
ตัวอย่างเค้กชิฟฟ่อนที่เห็นทั่วๆไป คือพวกเค้กช๊อกหน้านิ่ม เนื้อเค้กชนิดนี้เหมาะสำหรับทำคัพเค้ก เนื่องจากตัวเนื้อที่ค่อนข้างฟูนุ่ม มัน แต่อยู่ตัวดีไม่ยุบเหมือนเนื้อสปันจ์ครับ ทำให้เวลาแต่งหน้าแล้วไม่ยุบ ดูสวยงาม
เนื้อเค้กชนิดนี้จะขึ้นฟูกว่าแบบสปันส์เนื่องจากมีการนำไข่แดง ไข่ขาวแยกออกจากกัน แล้วนำไข่ขาวไปตีตัดกับน้ำตาลเพื่อเติมอากาศเข้าไปให้ขึ้นฟูสุด ตั้งยอดแข็ง แล้วนำกลับไปผสมกับส่วนประกอบหลักอีกที โดยเค้กชนิดนี้จะสังเกตได้ง่ายจากส่วนผสมที่เป็นน้ำมันพืชครับ สูตรไหนมีน้ำมันพืช ให้ใช้หลักการแบบนี้ครับ
ส่วนผสมเนื้อเค้กชิฟฟ่อนสามารถแบ่งได้ 3 ส่วน ให้จำกันง่ายๆ ดังนี้ ยกตัวอย่างตามสูตรนี้ครับ
ส่วนผสม
1. แป้งเค้ก(พัดโบก) 100 กรัม
2. ผงฟู 1 ชช.
3.น้ำตาลทรายส่วนที่ 1 30 กรัม
4.เกลือ 1/4 ชช.
5.น้ำมันพืช 100 กรัม
6. ไข่แดง 4 ฟอง
7.นมข้นจืด. 70. กรัม
8.วนิลา 1 ชต.
9.ไข่ขาว 4 ฟอง
10. น้ำตาลทรายส่วนที่ 2 40 กรัม
11. ครีมออฟทาร์ทา 1/4 ชช.
วิธีทำ
ส่วนที่ 1.
ร่อนแป้ง ผงฟู ให้เข้ากันหรือถ้าบางสูตรมีเบกกิ้งโซดาก็ต้องร่อน เสร็จแล้วพักไว้ในอ่างผสม
ส่วนที่ 2.
เทส่วนผสม( น้ำตาลทรายส่วนที่ 1 , เกลือ , น้ำมันพืช , นมข้นจืด , ไข่แดง , วนิลา ) และส่วนที่ 1 ทั้งหมด ในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันดี
ส่วนที่ 3.
นำไข่ขาว น้ำตาลทราย ครีมออฟทาทาร์ ตีในเครื่องตีแป้ง ความเร็วสูงสุด จนกระทั้งได้ส่วนผสมตั้งยอดแข็ง จากนั้นนำไปตะล่อมผสมกับส่วนผสมที่ 1 ,2 ที่ผสมกันแล้วโดยผสมอย่างเบามือให้เข้าระวังอย่าให้ยุบ
นำใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ กระแทกพิมพ์เพื่อไล่อากาศ และเข้าอบในเตาอบที่อุณหภูมิ 180 c จนกว่าจะสุก
ผมขอสรุปเป็นแผนภาพง่ายๆตามภาพนี้ครับ
แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยครับ สำหรับการอบเค้กแบบชิฟฟ่อน ไม่ยากเลยใช่ไม๊ครับ บทความต่อไป ผมจะหาเค้กสูตรชิฟฟ่อนมาให้เพื่อนลองทำกัน ดู ว่าใช้หลักการนี้ได้จริงหรือเปล่า มีคำถามฝากไว้ใน comment ได้นะครับ แต่อย่าลืมสมัคร gmail ก่อนถึงจะโพสต์ได้ครับ
เคล็ดลับของชิฟฟ่อน.....
1.ในส่วนผสมของไข่แดง เมื่อผสมกับแป้งและน้ำตาล เกลือ แล้วช่วงเติมน้ำมันพืช ไข่แดงและของเหลว อื่นๆ ควรเติมพร้อมกันเพียงทีเดียว
2.อ่างผสมและหัวตีที่ใช้ตีไข่ขาว ต้องสะอาด และปราศจากไขมัน มิฉะนั้นจะตีไข่ขาวไม่ขึ้น
3.อ่างที่ใช้ตีไข่ขาว ไม่ควรเป็นสังกะสี เพราะจะทำให้ตีไข่ขาวไม่ขึ้น และไข่ขาวอาจมีสีคล้ำ
4.การตีไข่ขาวมากเกินไป จะทำให้เนื้อเค้กแห้ง และจะทำให้คนส่วนไข่ขาวกับส่วนของไข่แดงยากขึ้น
5.หากต้องการทำเค้ก 2 ชั้น แนะนำให้แบ่งเป็น 2 พิมพ์
6.วิธีตะล่อมไข่ขาวกับส่วนผสมเค้กด้วยตระกร้อมือสำคัญที่ต้องเร็วและเบามือที่สุด ห้ามกวนไปกวนมา
I baked
เราใส่ถ้วยฟอยล์อบค่ะ ปัญหาที่เจอคือตัวเค้กพอออกจากเตามันยุบและหดมาก ไม่แน่ใจว่าอันนี้คือเรื่องปกติหรือเปล่าคะ
ตอบลบ