Blueberry Cheese Cake แบบไม่อบ..

Blueberry Cheese Cake....


              สมัยตอนที่ยังไม่เริ่มทำเค้ก จำได้ว่าทุกครั้งที่ไปยืนอยู่ที่หน้าตู้เค้ก เค้กที่จะต้องสะดุดตาเป็นชนิดแรกทุกทีไปคล้ายๆกับ Love at first sight คงหนีไม่พ้นชีสเค้ก..โดยเฉพาะบลูเบอรรี่ชีสเค้ก เนื้อชีสเค้กสีเหลืองอ่อนๆตัดกับแยมบลูเบอรี่สีม่วง ยิ่งพอได้ลิ้มชิมรสเข้าไป 
ชีสรสเปรี้ยวละมุนตัดกับรสหวานนิดๆเปรี้ยวหน่อยๆของแยมบลูเบอรรี่ แหม๋มันช่างเข้ากั๊นเข้ากันค่ะ ถึงแหม๋ว่าจะไม่ได้เป็นเค้กชนิดแรกที่เริ่มทำตอนทำเค้กใหม่ๆก็แหม๋สารภาพตามตรงค่ะกลัวว่ามันจะยาก แต่ที่ไหนได้พอได้ทำจริงๆแล้วไม่ได้ยากอย่างที่คิดแฮะ จริงๆเป็นเค้กที่เหมาะกับคนที่เริ่มหัดทำเค้กควรได้ลองทำค่ะ ว่าแล้วจะมัวช้าทำไมล่ะคะ ไปเข้าครัวกันดีกว่าค่ะ......




ก่อนอื่นเราไปดูกันก่อนดีกว่าว่าส่วนผสมที่เราต้องเตรียมมีอะไรกันบ้างเอ่ย....

ส่วนผสมตัวชีส
1.ครีมชีส ( Cream Cheese )  2   ก้อน ( ครีมชีส 1 ก้อนที่วางขายในซุปเปอมาร์เก็ตจะหนักก้อนละ 
   250 กรัม ) นำออกมาวางให้อ่อนตัวที่อุณหภูมิห้อง 
2. ซาวครีม ( Sour Cream )  1/4  ถ้วย ( ถ้าหาไม่ได้จริงๆก็ไม่ต้องตีอกชกหัวไปนะคะ ใช้โยเกิร์ตรส          
   ธรรมชาติแทนได้ค่ะ รสชาติไม่หนีกันเท่าไหร่
3. นมสด  3/4 ถ้วย
4. ไข่ไก่เบอร์ 0    3   ฟอง
5. น้ำตาลทราย  3/4  ถ้วย
6. น้ำเปล่า   1/4  ถ้วย
7. เจลาตินผง  2 ช้อนชา
8. วนิลาExtract   1  ช้อนชา
9. บลูเบอรรี่กระป๋องสำหรับแต่งหน้า 

ส่วนผสมฐาน

1. ขนมปัง ABC หรือแครกเกอร์รสธรรมดานำมาบดไม่ต้องถึงละเอียดยิบหรอกนะคะ เอาแค่พอหยาบๆเหมือนเม็ดทราย บดเสร็จนำมาตวงให้ได้  2  ถ้วย
2. เนยสดละลาย  150  กรัม

ไงคะดูส่วนผสมแล้วก็ไม่ได้หายากจนเกินไปนะคะ หาทุกอย่างได้จากซุปเปอร์มาร์เก็ตเลยค่ะ แต่ถ้าอยากลดต้นทุน แนะนำว่าซื้อวัตถุดิบตามร้านอุปกรณ์เบเกอรรี่ดีกว่านะคะราคาถูกกว่ากันเยอะเชียวค่ะ เพื่อให้เป็นการเสียเวลาเราไปเริ่มลงมือทำกันเลยค่ะ

วิธีทำ

1. ก่อนอื่นเลยมาเตรียมพิมพ์กันก่อนค่ะ ในการทำชีสเค้กควรเลือกพิมพ์แบบถอดก้นได้นะ เพราะง่ายต่อการนำชีสเค้กออกจากพิมพ์ ถอดก้นถาดออกนำฟอยด์มารอง วันนี้เราเลือกใช้พิมพ์ขนาด 3 ปอนด์นะคะ

ห่อฟอยด์ที่ก้นถาดพิมพ์


 2. ต่อไปก็ทำฐานชีสโดยนำเนยละลายใส่ในแครกเกอร์ที่บดแล้ว ค่อยๆทยอยใส่เนยนะคะ อย่าใส่ไปทีเดียว อาจจะแฉะเกินไปได้นะคะ เอาแค่พอเหมือนทรายที่เปียกน้ำ คลุกให้เข้ากันดี แล้วนำไปกรุที่ฐานพิมพ์กดให้แน่น หลังจากนั้นนำไปแช่ช่องฟรีชไว้สัก 15 นาที ก่อนจะนำไปเข้าเตาอบ ไฟ 180 องศาเซลเซียส เสร็จแล้วนำออกมาพักไว้ก่อน
แครกเกอร์บด และเนยละลาย

ทยอยใส่เนยละลายลงไป คลุกให้เข้ากัน

แล้วนำไปใส่พิมพ์

กรุแครกเกอร์ให้แน่นนะคะตามภาพ

3. ละลายเจลาตินในน้ำเปล่าแล้วยัดเข้าไมโครเวฟให้ร้อนและละลายจนหมด และเอาน้ำอุ่นหล่อถ้วยไว้นะคะเจลาตินจะได้ไม่แข็งตัว



 4. ตีครีมชีสด้วยที่ตีหัวตระกร้อ ตีความเร็วปานกลางจนครีมชีสเนียนดี ใส่ซาวครีมลงไปตีให้เข้ากัน
หั่นชีสเป็นชิ้นเล็กๆ
ใช้ที่ตีหัวตะกร้อตีที่ความเร็วปานกลางสักพัก และใสซาวครีมลงไป
ตีจนชีสและซาวครีมเนียนดี
5. นำนมใส่หม้อ  นำขึ้นตั้งเตาอุ่นนมให้พอร้อนแค่พอร้อนๆนะคะ ไม่ต้องให้เดือนค่ะ 

6.ตีไข่กับน้ำตาลให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ





7. นำนมที่อุ่นๆมาเทลงในชามไข่กับน้ำตาลที่ตีแล้ว นำใส่หมอกลับขึ้นไปตั้งไปอ่อนๆ เน้นนะคะว่าไฟอ่อน ใช้ตะกร้อคนส่วนผสมไปเรื่อยๆ สังเกตว่าส่นผสมจะข้นขึ้นเพราะไข่เริ่มสุก พอข้นเหมือนครีมเราก็ยกลงจากเตานะคะ แล้วจึงใส่เจลาตินที่เราละลายรอไว้ลงไป คนให้เข้ากัน



8. .ใส่ครีมชีสที่ตีแล้วลงไปคนให้เข้ากัน และตามด้วยวนิลาคนให้เข้ากันอีกครั้งค่ะ 
เทชีสลงไป ก่อนตามด้วยวนิลา

หน้าตาของส่วนผสมในขั้นตอนสุดท้าย
9. เทส่วนผสมที่ได้ ลงในพิมพ์เค้ก ที่เราได้เตรียมทำฐานรอไว้แต่แรก 




10. นำเข้าแช่ตู้เย็นไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง รึข้ามคืนก็ได้นะคะจะได้เซ็ทตัวสวยงาม อดใจรอกันไว้ค่ะ 

11. เอาล่ะค่ะพอได้ฤกษ์หลังครบเวลานำออกจากตู้เย็น แล้วนำมีดบางไปชุบน้ำอุ่นแล้วเช็ดให้แห้ง แชะรอบขอบขนม ก่อนแก่ะล็อคพิมพ์ออก และนำขนมออกมาจากพิมพ์ วางบนกระดาษรองเค้ก


e

12. ตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟูบีบรอบขอบ ก่อนเทบลูเบอรรี่ราดหน้าตามใจชอบ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จค่ะ จับแต่งตัวตามใจชอบเลยค่ะ 


เห็นรึยังคะ ว่าขั้นตอนไม่ได้มีอะไรยุ่งยากเลยค่ะ ที่ยากสุดน่าจะเป็นตอนรอให้เซ็ตตัว 4 ชั่วโมงนี่สิ่คะ ช่างทรมารเพราะอยากกินแต่ต้องรอ แต่เชื่อเถอะค่ะว่าคุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน ยิ่งตอนได้ตักเข้าปาก....อืมมม เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมจริงๆค่ะ

I-Baked

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น