หากเพื่อนๆรู้ว่ากำลังอยู่ในเขาวงกตเหมือนผมแล้ว ยินดีด้วยครับที่เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ อาจดูแปลกในสายตาใครบางคน แต่เรามาดูเกมส์กันยาวๆ วัดผลกันยาวๆ ดีกว่า เหมือนเกมส์บาสเกตบอล ไม่อาจตัดสินใจกันด้วย ควอเตอร์แรก มันต้องตัดสินกันที่ควอเตอร์สุดท้าย หรือบางทีอาจเป็นลูกสุดท้ายในวินาทีสุดท้ายที่กระทบห่วงเลย สิ่งสำคัญคือเราสามารถตัดสินใจออกเดินทาง และ
รอคอยอย่างอดทนกับผลความสำเร็จได้หรือไม่
ออกไปทำอะไรนอกเขาวงกต ??
เป็นคำถามที่สำคัญและต้องตอบให้ได้ เพราะอย่างที่บอกถ้าตอบไม่ถูกอาจเพียงแค่เดินไปหาเขาวงกตลูกใหม่แค่นั้นเอง สำหรับผมแล้วคือการออกไปหาสิ่งที่ผมรักจริงๆ อันนี้เน้นนะครับ ต้องหาให้เจอและเป็นสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข ที่สำคัญยังคงดำรงชีวิตอยู่ได้ ไม่แตกต่างจากวิถีชีวิตตอนอยู่ในเขาวงกต คือมีกินมีใช้ไม่เดือดร้อนชาวบ้านชาวช่อง แต่ถ้ายังไม่รู้อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ !!!!!!
โดยส่วนตัวกว่าที่ผมจะเจอสิ่งที่ผมรักคือ งานเบเกอรี่ ผมใช้เวลาการค้นหา สำรวจอยู่ไม่น้อย เพื่อเช็คว่ามันใช่หรือไม่ เหมือนเราคบสาวซักคน จะแต่งงานก็ต้องใช้เวลาดูใจกันยาวๆ คบไป 5 เดือนแต่งก็คงไม่พ้นเรื่องท้องแน่ๆ 55 เมื่อรู้ว่าใช่ก็ต้องใช้เวลาอีก ในการศึกษาหาความรู้ เพื่อเปลี่ยนจากสิ่งที่รัก มาเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ทำเงินได้พร้อมกัน ถึงวันนั้นประตูทางออกเขาวงกตของเรา จะถูกปูพรมอย่างดีพร้อมให้เราก้าวย่างออกมาอย่างสง่างาม ไม่ต้องวิ่งเข้าไปหลบซ่อนใหม่อีก
จะรู้ได้อย่างไรว่า…อะไรคือสิ่งที่เรารักและอยากทำ ???
1. หัดตั้งคำถามให้กับชีวิตและตอบอย่างจริงใจ
หลายคนอาจดูน่าสงสาร ที่ไม่รู้ว่าตัวเองรักและต้องการทำอะไรอย่างจริงจัง ไม่ใช่เขาเหล่านั้นไม่มีสิ่งที่รัก เพียงแค่เค้าเหล่านั้นไม่กล้าตั้งคำถามให้กับชีวิตและตอบมันอย่างจริงจัง เพราะเมื่อไม่เกิดการตั้งคำถาม ก็ย่อมไม่มีคำตอบอยู่ในตัว
ผมหัดตั้งคำถามนี้ให้กับตนเองตั้งแต่เริ่มทำงานใหม่ๆ ทำไมเราถึงไม่เหมาะเป็นมนุษย์เงินเดือน ??? ด้วยความรู้สึกว่างานที่ทำอยู่ไม่ตอบโจทย์กับ Life style ผมเท่าไหร่ ผมไม่ชอบการตอกบัตรเข้า ออก เฉกเช่นนักโทษทำความผิด ถูกคุมความประพฤติ ผมไม่ชอบระบบบังคับบัญชา ที่ดูไม่แฟร์ ผมไม่ชอบการโดนตีกรอบทางความคิดความสามารถ ด้วยคนที่แค่อายุมากกว่า ผมไม่ชอบรอความเจริญก้าวหน้าด้วยปลายปากกาคนที่แทบไม่เคยรู้จักตัวตนของผมจริงซักนิด ผมไม่ชอบๆๆๆๆๆ อีกหลายๆอย่าง และที่สำคัญผมคิดว่าผมมีความสามารถมากกว่าที่ใครสั่งให้ทำ แต่...ถ้าใครไม่คิดแบบผม ยินดีด้วยครับคุณเป็นคนที่เหมาะสมกับระบบมนุษย์เงินเดือนมืออาชีพจริงๆ ขอนับถือ แต่เท่าที่ดูแล้วคิดแบบนี้มากเรียกว่าหยิบ 10 เจอ 5 แต่แค่คิดครับแต่ไม่หาคำตอบ สำหรับคนที่คิดจะหาคำตอบแบบผม ขอเชิญมาดูต่อว่าผมมีกระบวนการหาสิ่งที่ชอบยังไง
2. เริ่มค้นหาสิ่งที่รักอย่างจริงจัง
กางกระดาษเปล่าใบใหญ่ กับ ปากกา 1 ด้าม สูดลมหายใจเริ่มสร้างจินตนาการลึกๆ และขีดเขียนสิ่งที่รักและอยากทำลงไป คิดอะไรได้เขียนไปก่อน ไม่ต้องใช้ Logic เยอะ ใช้สมองข้างซ้ายบ้าง ไม่ต้องคิดว่าผิดหรือถูก ผมแบ่งสิ่งที่เขียนออกเป็น 2 กลุ่มคือ
1.สิ่งที่อยากจะทำ และเกี่ยวข้องกับสายงานที่ผมเรียนจบมา ก็คือวิศวกรรม
2.อะไรก็ได้ที่อยากทำไม่เกี่ยวกับวิศวกรรมเลย
น่าทึ่งจริงๆ คุณจะพบว่ามีสิ่งที่อยากจะทำเยอะเหลือเกินบางทีกระดาษ A0 ยังเขียนไม่พอ หรือว่าบางทีทั้งชีวิตนี้อาจไม่หมด เพราะฉะนั้นรีบๆทำกันเถอะ Life is so short .
จากนั้นผมเริ่มคัดกรองให้ลำดับความสำคัญ และ ความเป็นไปได้ทางธุรกิจ เรื่องเวลา ความสามารถ เงินลงทุน เพราะ บางอย่างเราอาจจะอยากทำมาก แต่ต้นทุนชีวิตเราไม่เท่ากัน อาจจะเก็บไว้ทีหลัง เมื่อมีความพร้อมความลงตัว เช่นอาจจะมีความรู้เรื่องรถอยากเปิดอู่ แต่ดูการแข่งขัน เงินลงทุนแล้วคงยาก
เมื่อเริ่มตัดตัวเลือก จะเหลือสิ่งที่อยากทำ และเป็นไปได้อยู่ ไม่กี่อย่าง สำหรับผมจะเหลือแต่ในกลุ่ม 2 เกือบหมด สงสัยจะเลือกผิดตั้งแต่เข้ามหาลัยแล้วมั้งนี่??? แล้วจะรู้ได้ยังไง ว่าในตัวเลือกที่เหลืออะไรคือคำตอบสุดท้าย….ต้องทดลองทำครับ แค่ความรู้สึกคงไม่พอ
ผมจำได้ผมตอนนั้นเหลือ อยู่ 2 อย่างคือ งานช่างไม้ กับ งานเบเกอรี่ ผมเริ่มค้นคว้าหาความรู้ทั้งจากหนังสือทั่วไป จากอินเตอร์เนต สมัครเรียน ดูเหมือนว่างานสองอย่างนี่ แทบไม่ค่อยมีความเกี่ยวกันเลย งานไม้เป็นผู้ชาย งานเบเกอรี่เป็นงานผู้หญิง แต่ที่ผมชอบคือการสร้างสรรค์ผลงานที่มีความสวยงาม ซึ่งงานทั้งสองมีสิ่งนั้นอยู่ คงไม่ต้องตอบว่าผมเลือกอันไหน แต่สำหรับงานช่างไม้ ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ทิ้งไม่ลงจริงๆ เพียงแค่รอโอกาส ที่จะทำความรู้จักและสานสัมพันธ์กันในอนาคตอันใกล้ แค่นั้นเอง
บทความฉบับหน้าผมจะลงในรายละเอียดการเริ่มเดินทางตามสิ่งที่ผมรักและเลือกแล้วคือ..............งานเบเกอรี่ครับ !!!!
I baked Homemade bakery
See more at: http://www.ibaked-bakery.com/index.php?tpid=0062#.UvOi_GKSzfJ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น